วันศุกร์, กรกฎาคม 25, 2551

Short Replay: Showgirls


คงไม่มีผู้กำกับสติดีๆ คนไหนกล้าทำหนังพิลึกอย่าง Showgirls นอกจาก พอล เวอร์โฮเวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้อ่านบทภาพยนตร์ของ โจ เอสเตอร์ฮาส (Basic Instinct) ซึ่งเต็มไปด้วยพล็อตน้ำเน่าประเภทเอามาสร้างเป็นละครไทยหลังข่าวได้สบาย ฉากขายเซ็กซ์อย่างไร้ยางอาย (นางเอกเต้นระบำนั่งตักให้ลูกค้าจนกระทั่งผู้ชายถึงจุดสุดยอด) ฉากสะใจที่เล่นกันหนักมือจนกลายเป็นน่าขบขำ (นางเอกแก้แค้นนังตัวร้ายด้วยการผลักหล่อนตกเวทีจนสะโพกหัก) ฉากแฟนตาซีเพศชาย (ตอนท้ายจู่ๆ นางเอกกับนังตัวร้ายดันปรับความเข้าใจกันได้แล้วก็จูบปากกันอย่างดูดดื่ม) และฉากข่มขืน ซึ่งโผล่เข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ความจริง Showgirls อาจเป็นหนัง exploitation เกรดบีที่ประสบความสำเร็จ หากมันไม่ได้ผลิตโดยสตูดิโอใหญ่ในฮอลลีวู้ด โดยผู้กำกับที่เปี่ยมทักษะภาพยนตร์และโด่งดังอย่างสูงจากหนังทำเงินเกรดเออย่าง RoboCop, Total Recall และ Basic Instinct แถมบทหนังยังถูกประมูลมาด้วยราคามโหฬาร (2 ล้านเหรียญ) อีกต่างหาก ความคาดหวังอันสูงลิ่วส่งผลให้ Showgirls ซึ่งออกฉายพร้อมเรท NC-17 ได้เสียงตอบรับเป็นก้อนอิฐจากทั้งนักวิจารณ์และคนดู ก่อนจะตบท้ายด้วยการคว้ารางวัลราสซี่ไปครองถึง 7 ตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป Showgirls กลับกลายสถานะเป็นหนัง cult classic แบบเดียวกับ The Rocky Horror Picture Show จากการฉายรอบเที่ยงคืน มันติดอันดับหนึ่งในยี่สิบวีดีโอขายดีที่สุดตลอดกาลของเอ็มจีเอ็มและคุณภาพในลักษณะ “ห่วยจนสนุก” ของมันก็เริ่มขจรขจายแบบปากต่อปาก เช่นเดียวกับฝีมือการแสดงอันสุดแสนจะ over the top ของ อลิซาเบ็ธ เบิร์กลีย์ (หล่อนเล่นฉากเซ็กซ์เหมือนคนเสี้ยนเฮโรอีน) ซึ่งต้องโชว์เนื้อนมไข่แทบจะทุกฉากในหนัง นอกจากนี้นักวิจารณ์ชื่อดังอย่าง โจนาธาน โรเซนบาวม์ ยังชื่นชม Showgirls ว่าเป็นหนังล้อเลียนในลีลาจริงจังชั้นยอด ขณะที่ผู้กำกับระดับแนวหน้าหลายคนก็ออกมาปกป้อง Showgirls กันสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น จอห์น วอเตอร์ส (คนนี้ไม่น่าแปลกใจ) เควนติน ตารันติโน่ (นี่ก็ไม่น่าแปลกใจอีกเหมือนกัน) หรือกระทั่ง ฌ๊าค ริแวตต์ (หา?!) เจ้าของหนังอาร์ตคลาสสิกอย่าง La Belle noiseuse และ Celine et Julie vont en bateau ซึ่งยกย่อง Showgirls ว่าเป็น “หนังอเมริกันที่ดีที่สุดของเวอร์โฮเวนและมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด มันสะท้อนมุมมองอันมืดหม่นของเวอร์โฮเวนเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยมนุษย์เฮงซวย”