วันอังคาร, พฤษภาคม 08, 2550

Lesbian Films For Dummies


วันก่อนมีนักข่าวโทรมาขอให้แนะนำหนังเลสเบี้ยน 5 เรื่อง พอลองนึกไปนึกมา ผมถึงตระหนักว่าตัวเองเคยดูหนังเลสเบี้ยนน้อยมาก และส่วนใหญ่มักเป็นการดูตามเทศกาลเมื่อนานมาแล้ว เช่น High Art และ Better Than Chocolate ซึ่งจดจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ นอกจากเรื่องแรกเป็นการคัมแบ็คที่ยอดเยี่ยมของ อัลลี ชีดี้ ส่วนเรื่องหลังมีเพลงประกอบชื่อเดียวกันของ ซาร่าห์ แม็คลาแลน นักร้องคนโปรด ด้วยเหตุนี้เอง หนังที่ผมแนะนำไป 5 เรื่อง ส่วนใหญ่เลยเป็นหนังเมนสตรีม แถมบางเรื่องอาจจำกัดความว่าเป็นหนังเลสเบี้ยนตรงๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ (Mulholland Drive) แต่เลือกเพราะความชอบส่วนตัวในตัวหนังและผู้กำกับ

ใจจริงผมอยากแนะนำหนังเรื่อง Desert Hearts ด้วย ในฐานะที่มันเป็นหนังบุกเบิกเรื่องแรกๆ ของเลสเบี้ยนเหมือน Making Love และ The Boys in the Band ของฝั่งเกย์ แต่คาดว่าคงจะหาชมได้ยาก และที่สำคัญ ผมไม่รู้สึกว่าหนังมันน่าสนใจอะไรมากเท่าไหร่ (นอกเหนือจากแง่มุมทางประวัติศาสตร์ของรักร่วมเพศบนจอภาพยนตร์) ฉากรักระหว่างผู้หญิงสองคนถูกนำเสนอในรูปแบบของ “แฟนตาซีเพศชาย” แต่มันเป็นหนังเลสเบี้ยนแท้ๆ พูดถึงการ “ค้นพบตัวเอง” ของผู้หญิง ตรงกันข้ามกับหนังอย่าง Monster หรือ Mulholland Drive ซึ่งเพียงแค่มีตัวเอกเป็นเลสเบี้ยน (ในกรณีของ Monster เธออาจไม่ใช่เลสเบี้ยนด้วยซ้ำ เพียงแต่เป็นคนเหงาที่ค้นพบความรักจากผู้หญิง) และไม่ได้พูดถึงโลกหรือวัฒนธรรมรักร่วมเพศโดยตรง

นี่คือหนัง 5 เรื่องที่ผมแนะนำไปครับ

Monster ดัดแปลงจากประวัติชีวิตจริงของโสเภณีที่กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ไอลีน วัวร์นอส ซึ่งต้องพลีกายให้ผู้ชายเฮงซวยมาตลอดชีวิต ทั้งแบบเต็มใจและไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายเธอกลับได้ค้นพบความรักอันงดงาม (ครั้งแรกและครั้งเดียว) กับผู้หญิงคนหนึ่ง ความรักนั้นทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกอันโหดร้าย แต่ขณะเดียวกันก็ชักนำเธอเข้าไปสู่โลกแห่งอาชญากรรม จุดเด่นของหนังอยู่ตรงการแสดงอันไร้เทียมทานของ ชาร์ลิซ เธรอน ในบทซึ่งทำให้เธอคว้ารางวัลออสการ์มาครอง

Bound ก่อนจะโด่งดังจากหนังชุด The Matrix สองพี่น้องผู้กำกับ แอนดี้ กับ แลร์รี่ วาโชวสกี้ เคยกำกับหนังเลสเบี้ยนเขย่าขวัญปนสไตล์ฟิล์มนัวร์เรื่องนี้เอาไว้เมื่อปี 1996 เล่าถึงความสัมพันธ์อันตรายระหว่างอดีตนักโทษหญิงมาดเท่ที่กลายมาเป็นช่างซ่อมสารพัดประจำโรงแรมกับสาวสวยเสียงแหลมรูปร่างอวบอัด ทั้งสองวางแผนจะหลอกเอาเงินนับล้านจากสามีของฝ่ายหลัง ซึ่งเป็นลูกน้องมาเฟีย แต่แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมไม่ราบรื่นตามแผน หนังดูสนุก ลุ้นระทึก แถมด้วยฉากรักระหว่างหญิงกับหญิงที่ร้อนแรงที่สุดฉากหนึ่ง

Boys Don’t Cry อีกเรื่องที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงชวนสลดของ ทีน่า แบรนดอน หญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปอยู่ในเมืองบ้านนอกอันห่างไกลจากแสงสีและตึกสูงระฟ้า สถานที่ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงมีจิตใจคับแคบในเรื่องเพศ ทีน่าตกหลุมรักกับสาวสวยคนหนึ่ง แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันไปสู่โศกนาฏกรรม เมื่อเพื่อนชายในกลุ่มค้นพบความจริง เช่นเดียวกับ Monster หนังโดดเด่นที่การแสดงอันยอดเยี่ยมของ ฮิลารี่ สแวงค์ ซึ่งเวลาแต่งตัวเป็นผู้ชายดันดูละม้ายคล้าย แม็ท เดมอน ยังกะแกะ

Mulholland Drive อาจไม่ใช่หนัง “เลสเบี้ยน” โดยแก่นหลัก แต่มีตัวเอกเป็นหญิงสาวสวยสองนาง ซึ่งสุดท้ายได้มาลงเอยกันบนเตียงในฉากรักสุดอีโรติก หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างไดแอน นักแสดงสาวแสนซื่อที่เดินทางมาฮอลลีวู้ดเพื่อจะเป็นดารา กับ ริต้า สาวอกอึ๋มที่ความจำเสื่อมในอุบัติเหตุรถยนต์และจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร พล็อตเรื่องดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความพลิกผัน... หรือสับสน นั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณคุ้นเคยกับสไตล์ของ เดวิด ลินช์ มากแค่ไหน

Show Me Love เป็นหนังเล็กๆ แนว coming-of-age จากสวีเดนที่คงไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่ให้อารมณ์น่ารัก อบอุ่น และชวนประทับใจไม่รู้ลืม อาจพูดได้ว่านี่คือ Beautiful Thing เวอร์ชั่นเลสเบี้ยน แม้ว่ามันออกจะชัดเจนในแนวทาง “อินดี้” มากกว่าก็ตาม หนังเล่าเรื่องราวของแอ็กเนส เด็กหญิงวัยรุ่นขี้อายที่แอบหลงรักเพื่อนสาว อีลิน ซึ่งค่อนข้างจะมีชื่อเสียเรื่องผู้ชายในโรงเรียน (แต่ความจริงเธอยังไม่เคยเสียตัวให้ใครมาก่อน) ทั้งสองได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อฝ่ายหลังโผล่มาร่วมงานวันเกิดของฝ่ายแรกแบบไม่คาดฝัน ถ้าใครไม่ชอบ “โลกมืด” แบบในหนังสี่เรื่องข้างบน นี่คือตัวเลือกที่จะช่วยให้คุณอิ่มเอิบและมองโลกสดใส

2 ความคิดเห็น:

NATHANIEL R กล่าวว่า...

i can't read this but i'm really hoping there's love somewhere in the text for show me love ;)

Riverdale กล่าวว่า...

Of course, I really like SHOW ME LOVE. It's the most endearing lesbian film I've ever seen. It's kind of like BEAUTIFUL THINGS for girls.

Also, I would like you to know that I also love MULHOLLAND DRIVE as much as you. I know that it's lame to label it lesbian film, but I think I just like the movie too much.