วันอังคาร, มีนาคม 10, 2552

Short Replay: Manhattan


ผมเป็นแฟนหนังของ วู้ดดี้ อัลเลน และ Manhattan ก็ยังคงดำรงตำแหน่งสูงสุดในหัวใจเสมอมา (และคงตลอดไป) แม้ผมจะหลงรักหนังเรื่องอื่นๆ ของเขาอีกหลายเรื่องไม่แพ้กัน และแม้ผมจะไม่แน่ใจว่ามันเป็นหนังที่ “ดีที่สุด” ของอัลเลนหรือไม่ สาเหตุที่มัน “โดนใจ” ผมค่อนข้างมีความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อย รวมไปถึงช่วงเวลา ณ ขณะที่ได้ชมหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก มันอุดมไปด้วยความงดงามของทัศนียภาพรอบเมืองแมนฮัตตัน (งานถ่ายภาพขาวดำที่น่าประทับใจที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้ดูมา) และเพลงประกอบสุดแสนไพเราะของ จอร์จ เกิร์ชวิน จนทำให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันโรแมนติก แต่อัลเลนได้คานน้ำหนักไว้ด้วยการสะท้อนสภาวะ “สมจริง” ของเหล่าตัวละคร รวมถึงวิกฤติทางจิตใจของพวกเขา จนคนดูสามารถ “อิน” ไปกับเรื่องราวได้โดยตลอด

ทีเด็ดของ Manhattan ซึ่งได้ใจผมไปเต็มๆ คือ ฉากสุดท้ายของหนัง เมื่อไอแซ็ค (อัลเลน) เดินทางมาพบ เทรซี่ (เมเรียล เฮมมิ่งเวย์ ในการแสดงที่สุดแสนมหัศจรรย์) คู่รักวัย 17 ปีของเขาที่สนามบินขณะเธอกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาหกเดือน (ก่อนหน้านี้ เขาพยายามจะสลัดเธอทิ้ง พร้อมทั้งหาเหตุผลสารพัดมาสนับสนุนให้เธอเดินทางไปต่างประเทศ เพราะเขาดันไปตกหลุมรักกับหญิงสาวอีกคนซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกัน รับบทโดย ไดแอน คีตัน แต่สุดท้ายมันก็ไปไม่รอด) เขาไม่อยากให้เธอจากไป พยายามอ้อนวอน ฉุดรั้งเธอไว้ เพราะกลัวว่าเวลาหกเดือนแห่งประสบการณ์แปลกใหม่จะทำให้เธอกลายเป็นอีกคนหนึ่ง (“ผมไม่อยากให้สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับคุณต้องแปรเปลี่ยนไป”) เธอจะได้เจอดารา ผู้กำกับมากหน้าหลายตา ได้ไปทานอาหารกลางวันกับคนเหล่านั้น และสุดท้ายความสัมพันธ์ของเขากับเธอคงต้องจบลง... คำตอบของเด็กสาววัยทีน (ซึ่งกลายเป็นคำพูดสรุปสุดท้ายของหนัง) คือ “หกเดือนก็ไม่ได้เนิ่นนานอะไร ใช่ว่าทุกคนจะต้องเหลวแหลกเสียเมื่อไหร่ หัดมีศรัทธาในมนุษย์บ้างสิ”... ใช่เลย บางทีนั่นแหละคือสิ่งที่เราควรจะทำ

ไม่มีความคิดเห็น: