วันจันทร์, ตุลาคม 06, 2551

Short Replay: Captain Blood


นอกจากจะเป็นบิดาของหนังโจรสลัดและหนังฟันดาบ (ดาบจริงๆ ไม่ใช่ดาบเชิงนัย) แล้ว Captain Blood ยังถือเป็นหนังเรื่องแรกของคู่ขวัญแห่งยุค เออร์โรล ฟลินน์ กับ โอลิเวียร์ เดอ ฮาวิลแลนด์ ซึ่งต่อมาแสดงหนังร่วมกันอีกเจ็ดเรื่อง โดยไฮไลท์ระดับห้าดาว คือ ผลงานสุดคลาสสิกอีกสามปีต่อมาเรื่อง The Adventures of Robin Hood (สำหรับนักดูหนังรุ่นใหม่ เออร์โรล ฟลินน์ ถือว่าหล่อลากไส้และดูดีมีระดับในสไตล์เดียวกับ จู๊ด ลอว์ ซึ่งมารับบทเป็นฟลินน์ในหนังเรื่อง The Aviator ได้อย่างเหมาะสม)

ฟลินน์รับบท ดร. ปีเตอร์ บลัด ผู้ถูกตราหน้าเป็นกบฏแผ่นดินจากการช่วยรักษาบาดแผลให้กับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งมีส่วนร่วมในการวางแผนล้มราชบัลลังก์ของพระเจ้าเจมส์ที่สองแห่งประเทศอังกฤษ เขาตกเป็นทาสแรงงานและถูกซื้อตัวไปโดย อาราเบลล่า บิชอบ (ฮาวิลแลนด์) หลานสาวแสนสวยของเศรษฐีชาวไร่จอมโฉด แต่ระหว่างการบุกโจมตีของกองทัพสเปน ดร.บลัดกับเพื่อนชาวทาสก็ถือโอกาสหลบหนี พร้อมขโมยเรือของสเปนลำหนึ่ง แล้วหันไปเริ่มต้นใช้ชีวิตเป็นโจรสลัดท่องทะเล

ไม่ต้องสงสัยว่าท้ายที่สุด ดร.บลัดย่อมสามารถกลับมากอบกู้ชื่อเสียง ล้างแค้นศัตรู และเอาชนะใจสาวสวยได้สำเร็จ พล็อตเรื่องหาใช่จุดเด่นของ Captain Blood เช่นเดียวกับงานกำกับแบบพอไปวัดไปวาของ ไมเคิล เคอร์ติซ เคมีระหว่างฟลินน์กับฮาวิลแลนด์ยังไม่ค่อยเข้าที่นัก เมื่อเทียบกับผลงานเรื่องต่อๆ มาของพวกเขา แต่สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดและกลายเป็นพลังขับเคลื่อนหนังทั้งเรื่อง คือ รัศมีดาราของฟลินน์ ใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างสะโอดสะอง ดูคล่องแคล่วของเขาโดดเด้งออกมานอกเฟรมท่ามกลางงานจัดองค์ประกอบภาพอันวุ่นวาย ยุ่งเหยิง นอกจากนี้ เขายังลื่นไหลไปมาระหว่างบทดราม่ากับฉากแอ็กชั่นได้อย่างน่าทึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: